GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "E3 2020"
E3 2020 จะไม่มี Digital Event ทดแทนตัวงานที่ถูกยกเลิกไป
นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ ครับที่งาน E3 2020 ต้องถูกยกเลิกไป เพราะการระบาดของ COVID-19 และการประกาศ State of Emergency ของเมือง Los Angeles ซึ่งตัวผู้เขียนได้คาดเดาว่าน่าจะมีการจัดงานในรูปแบบ Digital ทดแทนตัวงานที่ต้องถูกยกเลิกไปแบบเดียวกับ Taipei Game Show หรือ GDC แต่เหมือนผมจะคิดผิดครับ เพราะล่าสุดก็มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า งาน E3 2020 จะไม่มี Digital Event ทดแทน! IGN ได้รายงานว่า "ESA จะไม่มีการจัด Digital Event เพื่อทดแทนตัวงานที่ถูกยกเลิกไป แต่ ESA จะทำงานกับ Exhibitors เพื่อทำการ Promote และโชว์ชื่อบริษัทต่างๆ บนเว็บไซต์ www.E3expo.com ในเดือนที่กำลังจะถึงนี้ เพื่อให้แน่ใจว่างาน E3 2021 จะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจได้อย่างแน่นอน" แปลว่าปีนี้น่าจะไม่มีงาน E3 อย่างแน่นอนแล้วครับ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในข่าวน่าเศร้าของปี 2020 นี้เลย Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 Apr 2020
E3 ประกาศวันจัดงานในปี 2021 แล้ว
E3 หรือ Electronic entertainment expo หรืองานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะนำเสนอเกมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยมี Entertainment Software Association เป็นผู้จัดงานและนิยมจัดในเมือง Los Angles เป็นประจำทุก ๆ ปี ในช่วงกลางปี ล่าสุดทาง Entertainment Software Association ได้ยืนยันวันจัดงานแล้ว โดยจะเป็นกำหนดการของปี 2021 โดยจะจัดในวันที่ 15-17 มิถุนายน 2021 ทำให้ในปีนี้งานเกมของมวลมนุษยชาติอาจจะไม่ได้จัดงานแสดงนี้แล้ว อันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ทั่วโลก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ เพราะงานนี้ต่างเป็นที่จับตาเสมอในทุก ๆ ปี Source:www.eurogamer.net ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
05 Apr 2020
ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ กับ งานเทศกาลใหญ่ ในแวดวงวิดีโอเกม?
คุณผู้อ่านทุกท่านเคยไป ‘งานนิทรรศการ’ กันบ้างไหม? มันออกจะเป็นคำถามที่เรียบง่ายจนเกือบจะไร้สาระ เพราะนิทรรศการ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์และศิลป์อันเป็นที่เราต่างคุ้นเคยกันอย่างดี ไม่ว่าจะนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการสินค้า นิทรรศการภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย หลากหลายทั้งในส่วนของขนาด และในส่วนของเนื้อหา ถ้าเช่นนั้น ผู้เขียนขอเปลี่ยนคำถามใหม่ … คุณ ‘รู้สึก’ อย่างไรเมื่อได้เข้าไป ‘ร่วม’ นิทรรศการเหล่านั้น? ผู้เขียนตีวงคำถามให้แคบลง แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าคำตอบก็น่าจะหลากหลายไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีร่วมกัน คือความรู้สึก ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ของการจัดแสดง ไม่ว่าจะในฐานะผู้รับชม หรือผู้ออกร้านเองก็ตาม การได้มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้สนใจ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเสรี การบรรลุข้อตกลงในทางธุรกิจการค้า นี่ต่างหาก ที่เป็นคุณค่าที่สำคัญของงานนิทรรศการ อันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญไม่แพ้การโฆษณาในแบบปกติ [caption id="attachment_46659" align="aligncenter" width="1024"] งานนิทรรศการ E3 ที่คุ้นเคย ที่อาจจะต้องผ่านเลยไปสำหรับปี 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การมีอยู่ของมันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว[/caption] และแวดวงวิดีโอเกมก็ไม่ต่างกัน มันเป็นงานพาณิชย์ศิลป์ที่ต้องการ ‘ความสนใจ’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ไม่ว่าจะในรูปแบบของ Business to Business (B2B) หรือ Business to Customer (B2C) ก็ตาม นั่นทำให้งานนิทรรศการจัดแสดงเกมใหญ่ๆ อย่าง Tokyo Game Show, Game Developer Conference, EGX Rezzed, PAX East ไปจนถึงมหกรรม ‘ศักดิ์สิทธิ์’ ของนักเล่นเกมอย่าง Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ยังคงดำเนินต่อไปมาจนถึงปัจจุบัน แต่มาในปีนี้ ดูเหมือนว่าบรรดางานนิทรรศการเกม กำลังเจอบททดสอบและมาถึงทางแยกที่สำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าวิกฤติการของ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ได้กระเทือนถึงการคงอยู่ของนิทรรศการวิดีโอเกมอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิก E3 2020, การเลื่อนกำหนดของ GDC 2020, การเลื่อนกำหนดของ EGX Rezzed 2020 และ Taipei Game Show 2020 และอีกหลายสิบงานที่ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของเชื้อร้ายที่กำลังสร้างความตื่นตระหนกเสียขวัญให้กับผู้คนทั่วโลก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ในเร็ววัน ลำพังแค่การยกเลิก E3 2020 ก็เรียกได้ว่าสะเทือนขวัญอย่างใหญ่หลวง เพราะนับตั้งแต่ปี 1995 นั้น ไม่เคยมีปีใดที่ Los Angeles Convention Center ในช่วงกลางปี จะขาดซึ่งสีสันของมหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่เหล่าผู้รักในวิดีโอเกมและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จะได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง แลกเปลี่ยน พูดคุย และได้เปิดตัวพร้อมทดสอบชิ้นงานวิดีโอเกมใหม่ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และที่พร้อมจะมา Premiere เป็นครั้งแรกในงานนี้ แน่นอนว่าการยกเลิกและการเลื่อนกำหนดของบรรดานิทรรศการวิดีโอเกมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (ภายใต้สถานการณ์ที่สุดวิสัย…) แต่มันก็ก่อให้เกิดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้เขียนขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ… มันยัง ‘จำเป็น’ อยู่หรือไม่ ที่แวดวงวิดีโอเกมจะต้องมี ‘นิทรรศการ’ ใหญ่ๆ เหล่านี้? ออกจะเป็นคำถามที่สับสนและขัดแย้งกับข้อกล่าวในช่วงข้างต้นของบทความ แต่เราอาจต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งที่ว่า เสน่ห์ของงานนิทรรศการนั้น แม้จะยังคงทรงพลัง และมีคุณค่าในสายตาของพวกเราผู้บริโภค แต่สำหรับค่ายเกมยักษ์ใหญ่นั้น มันคือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องถูกใช้เพื่อจับจอง เตรียมความพร้อม เพื่อช่วงเวลาสามถึงสี่วัน ที่สูงถึงหลักร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการได้มีพื้นที่ในฮอลล์หลัก ไม่นับรวมบรรดาค่ายเล็กๆ และทีมสร้างเกมอินดี้ ที่ค่าใช้จ่ายสำหรับการออกบูธเล็กๆ นั้น แม้จะไม่สูงเท่ากับการออกบูธของค่ายใหญ่ แต่เมื่อถัวเฉลี่ยค่าตกแต่ง ค่าเช่าที่ ค่าบุคลากร ค่าอุปกรณ์ อาจจะหมายถึงเงินเก็บสะสมทั้งหมด ที่ต้องเอาออกมาใช้แทงจนหมดหน้าตัก และเฝ้าภาวนาว่าผลงานของพวกเขา/เธอ จะไปเข้าตากรรมการหรือผู้ประกอบการให้ทะยานติดปีก (ซึ่งอาจจะได้หรือไม่ได้ ก็ต้องไปวัดดวงกันหน้างาน) เหล่านี้ เมื่อบวกรวมกับวัฒนธรรมการ Streaming ถ่ายทอดสดผ่านแพลทฟอร์มอย่าง Youtube หรือ Twitch ที่ผู้ชมสามารถเลือกรับชมได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องไปถึงสถานที่จริง มันก็ยิ่งทำให้ความจำเป็นของการจัดนิทรรศการเกมนั้นถูกท้าทายอย่างมีนัยสำคัญ ว่าในปีนี้ ที่ทุกอย่างต้องยกเลิก เลื่อน หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอ มันจะยังมีพลังและทำหน้าที่ที่งานนิทรรศการทั่วไปสามารถทำได้อยู่หรือไม่ อันที่จริง ค่ายเกมใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพเองก็ส่งสัญญาณการ ‘ตีจาก’ ให้เห็นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น EA ที่แยกมาจัดงานเฉพาะของตัวเอง, Nintendo ที่ถ่ายทอดสดผ่านงาน Nintendo Direct หรือแม้แต่งานอย่าง GDC และ E3 เอง ก็มีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Streaming ที่มีจำนวนผู้ชมมากขึ้นๆ ในแต่ละปี กระนั้นแล้ว ในทัศนะของผู้เขียน แม้จะมีปัจจัยแวดล้อมที่จะหนุนส่งให้บรรดางานนิทรรศการต้องล้มหายตายจาก มันก็ยังมีอีกมุมหนึ่ง ที่เป็นหลักฐานว่างานนิทรรศการอาจจะ ‘ไม่ตาย’ ไปตามกระแส เพราะดังที่กล่าวไป เป้าประสงค์ของงานนิทรรศการก็คือการ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างกัน ไม่ว่าจะระหว่างบริษัทกับผู้บริโภค หรือบริษัทกับคู่ค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝั่งผู้บริโภค ที่เป็นปลายน้ำสุดท้ายที่ชิ้นงานเกมจะต้องเดินทางไปถึง และงานนิทรรศการ ก็คือตัวจักรสำคัญที่จะช่วยผลักการตัดสินใจของผู้บริโภคในขั้นสุดท้ายก่อนที่ชิ้นงานจะวางจำหน่ายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการมีอยู่ของนิทรรศการเกมนั้น ไม่ได้มีส่งผลต่อค่ายพัฒนาและผู้จัดจำหน่าย แต่หมายรวมถึงกิจการต่างๆ ของพื้นที่ในการจัดงานเหล่านั้น ไม่ว่าจะบริการด้านสถานที่พัก สถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยในการหมุนเวียนของเม็ดเงินและเศรษฐกิจให้สะพัดมากยิ่งขึ้น การขาดไร้ซึ่งงานนิทรรศการ ย่อมส่งผลกระทบต่อการมีอยู่ของกิจการต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอาจจะไม่พร้อมเสี่ยงที่จะยกเลิกงานเหล่านี้ในเร็ววัน มาถึงวรรคนี้ ย้อนกลับไปที่คำถามเรื่องความจำเป็นของงานนิทรรศการแวดวงวิดีโอเกม มันอาจจเร็วเกินไปที่จะสรุป แต่สิ่งที่เคยเป็นเพียงแค่คำถาม ก็จะได้โอกาสที่จะทำการทดสอบอย่างจริงจัง เมื่อโลกแห่งแวดวงวิดีโอเกมจะไม่มีนิทรรศการ หรือมี แต่ถูกเลื่อนออกไปสู่ทางเลือกใหม่ มันจะได้ผลลัพธ์ออกมาเช่นใด [caption id="attachment_46674" align="alignnone" width="1000"] ก็ได้แต่หวังว่า Tokyo Game Show 2020 สถานการณ์วิกฤติ COVID-19 จะทุเลาเบาบางจนสามารถจัดงานได้ตามปกติ...[/caption] แต่ก็ดังที่กล่าวไปข้างต้น ผู้เขียนยังคงเชื่อในพลังของงานนิทรรศการ ตราบเท่าที่มันยังคงฟังก์ชันหลักของมัน มันก็ยากที่อุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้ จะร้างลาห่างหายไป เพราะ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างผู้คน และการลองดูกับมือเห็นกับตา โดยเฉพาะแวดวงวิดีโอเกม ก็ยังทรงคุณค่า และมีพลังมากกว่าเพียงแค่การถ่ายทอดสด อยู่หลายร้อยหลายพันเท่า
22 Mar 2020
E3 2020 อาจจะไม่ถูกจัด เพราะเมือง LA ประกาศสภาวะฉุกเฉิน!
การระบาดของโคโรน่าไวรัส ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ Hardware ที่ผลิตไม่ได้ เพราะโรงงานปิดจน ของขาดตลาดอยู่ในตอนนี้ หรือ งานคอนเฟอร์เรนซ์เกมต่าง ๆ ที่ประกาศเลื่อนวันจัดงานออกไป กระทั้ง ESA ที่เคยมีประกาศออกมาว่า "งาน E3 2020 จะไม่ยกเลิกแน่นอน" ตอนนี้ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้จัดแล้วเช่นกัน เพราะ LA ที่เป็นเมืองจัดงาน เพิ่งจะประกาศสภาวะฉุกเฉินไปครับ! จริง ๆ แล้วก็ยังอีกหลายเดือนกว่าที่งาน E3 จะถูกจัด แต่ด้วยการประกาศสภาวะฉุกเฉินในเมือง LA ตอนนี้ ถ้าหากว่าสภาวะดังกล่าวนั้นยาวไปจนถึงเดือน มิถุนายน แล้วละก็ มีโอกาสสูงมากที่งาน E3 2020 จะต้องถูกเลื่อนวันจัดงานออกไปเช่นกัน ซึ่งในช่วงเวลาอีก 3 เดือนต่อจากนี้ ตัววัคซีนเพื่อใช้ป้องกันโคโรน่าไวรัส น่าจะสามารถคิดค้นได้ และทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้มันดีขึ้น แต่ก็ต้องรอดูต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง E3 2020 จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 9 - 11 มิถุนายน 2020 นี้ครับ Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
05 Mar 2020
ESA เดินหน้าเต็มกำลัง ประกาศไม่เลื่อนวันจัดงาน E3 2020!
ถ้าพูดถึงงานคอนเฟอร์เรนซ์เกี่ยวกับเกมที่มีชื่อเสียงมาก E3 ถือเป็นหนึ่งในงานที่เหล่าเกมเมอร์ให้ความสนใจอย่างมากทุกปี เพราะในทุก ๆ ปีภายในงาน E3 จะมีการประกาศเปิดตัวเกมมากมาย แต่ก่อนหน้านี้หนึ่งในงานคอนเฟอร์เรนซ์เกี่ยวกับเกมชื่อดังอย่าง GDC ก็ต้องถูกเลื่อนออกไปเพื่อหนีการระบาดของเชื่อไวรัสโคโรน่า ส่งผลให้คนเริ่มคิดว่า "งาน E3 เองก็จะเลื่อนด้วยรึเปล่า?" แต่เหมือนว่าเราจะกลัวมากเกินไปกันเองครับ ESA ได้บอกกับทาง Vice Games ว่า "ตอนนี้ทุกคนกำลังเฝ้ามองสถานอย่างใกล้ชิดอยู่ แน่นอนว่าสุขภาพของพนักงานเรามาเป็นอันดับ 1 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังอีกนานกว่าจะถึงงาน E3 ดังนั้นตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะเลื่อนวันจัดงานออกไป และกำลังเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อทำให้งาน E3 2020 ออกมาดีที่สุด" ยังไงก็ยังอีกหลายเดือนจริงกว่าจะถึงวันงาน E3 ต้องรอดูต่อไปว่าช่วงนั้นการระบาดของโคโรน่าจะเบาลงรึยังครับ E3 2020 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 - 11 มิถุนายน 2020 ครับ ที่มา: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Mar 2020
ยืนยัน !! Nintendo จะเข้าร่วมงาน E3 2020 แน่นอน
E3 คืองานโชว์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอเมริกา ซึ่งมักจะมีค่ายเกมดังๆ เข้าร่วมอย่างมากมายซึ่งทางองค์กร Entertainment Software Association ได้เปิดเผยอัปเดตเกี่ยวกับการลงทะเบียนสำหรับการแสดงในปี 2020 นี้ โดยมี Xbox, Capcom, Square Enix, Take-Two Interactive Software, BANDAI NAMCO เป็นต้น และรายชื่อล่าสุดที่ประกาศออกมาแน่นอนว่าทาง Nintendo เองก็จะเข้าร่วมงานนี้เช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ค่ายนี้ไม่ได้มีรายชื่อในการมีส่วนร่วมเลย ซึ่งภายในงาน E3 ปีนี้ทาง Sony เองก็ยืนยันแล้วว่าพวกเขานั้นจะไม่เข้าร่วมงานนี้เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมทั้ง Geoff Keighley พิธีกรงานเกมชื่อดังเองก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมเช่นกัน โดยส่วนตัวคาดว่างาน E3 ปีนี้เราจะน่าจะได้เห็นเกมใหม่ๆ ที่จะลงให้กับเครื่อง PS5 มากมายเป็นแน่ และอาจจะมีการเปิดตัวของเกม Grand Thef Auto VI ก็เป็นได้ Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
14 Feb 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "E3 2020"
E3 2020 จะไม่มี Digital Event ทดแทนตัวงานที่ถูกยกเลิกไป
นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ ครับที่งาน E3 2020 ต้องถูกยกเลิกไป เพราะการระบาดของ COVID-19 และการประกาศ State of Emergency ของเมือง Los Angeles ซึ่งตัวผู้เขียนได้คาดเดาว่าน่าจะมีการจัดงานในรูปแบบ Digital ทดแทนตัวงานที่ต้องถูกยกเลิกไปแบบเดียวกับ Taipei Game Show หรือ GDC แต่เหมือนผมจะคิดผิดครับ เพราะล่าสุดก็มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า งาน E3 2020 จะไม่มี Digital Event ทดแทน! IGN ได้รายงานว่า "ESA จะไม่มีการจัด Digital Event เพื่อทดแทนตัวงานที่ถูกยกเลิกไป แต่ ESA จะทำงานกับ Exhibitors เพื่อทำการ Promote และโชว์ชื่อบริษัทต่างๆ บนเว็บไซต์ www.E3expo.com ในเดือนที่กำลังจะถึงนี้ เพื่อให้แน่ใจว่างาน E3 2021 จะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นเร้าใจได้อย่างแน่นอน" แปลว่าปีนี้น่าจะไม่มีงาน E3 อย่างแน่นอนแล้วครับ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในข่าวน่าเศร้าของปี 2020 นี้เลย Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 Apr 2020
E3 ประกาศวันจัดงานในปี 2021 แล้ว
E3 หรือ Electronic entertainment expo หรืองานเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะนำเสนอเกมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน โดยมี Entertainment Software Association เป็นผู้จัดงานและนิยมจัดในเมือง Los Angles เป็นประจำทุก ๆ ปี ในช่วงกลางปี ล่าสุดทาง Entertainment Software Association ได้ยืนยันวันจัดงานแล้ว โดยจะเป็นกำหนดการของปี 2021 โดยจะจัดในวันที่ 15-17 มิถุนายน 2021 ทำให้ในปีนี้งานเกมของมวลมนุษยชาติอาจจะไม่ได้จัดงานแสดงนี้แล้ว อันเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID - 19 ทั่วโลก ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก ๆ เพราะงานนี้ต่างเป็นที่จับตาเสมอในทุก ๆ ปี Source:www.eurogamer.net ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
05 Apr 2020
ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ กับ งานเทศกาลใหญ่ ในแวดวงวิดีโอเกม?
คุณผู้อ่านทุกท่านเคยไป ‘งานนิทรรศการ’ กันบ้างไหม? มันออกจะเป็นคำถามที่เรียบง่ายจนเกือบจะไร้สาระ เพราะนิทรรศการ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์และศิลป์อันเป็นที่เราต่างคุ้นเคยกันอย่างดี ไม่ว่าจะนิทรรศการศิลปะ นิทรรศการสินค้า นิทรรศการภาพยนตร์ และอื่นๆ อีกมากมาย หลากหลายทั้งในส่วนของขนาด และในส่วนของเนื้อหา ถ้าเช่นนั้น ผู้เขียนขอเปลี่ยนคำถามใหม่ … คุณ ‘รู้สึก’ อย่างไรเมื่อได้เข้าไป ‘ร่วม’ นิทรรศการเหล่านั้น? ผู้เขียนตีวงคำถามให้แคบลง แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่าคำตอบก็น่าจะหลากหลายไม่แพ้กัน แต่สิ่งหนึ่งที่น่าจะมีร่วมกัน คือความรู้สึก ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ ของการจัดแสดง ไม่ว่าจะในฐานะผู้รับชม หรือผู้ออกร้านเองก็ตาม การได้มีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับผู้สนใจ การได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเสรี การบรรลุข้อตกลงในทางธุรกิจการค้า นี่ต่างหาก ที่เป็นคุณค่าที่สำคัญของงานนิทรรศการ อันเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญไม่แพ้การโฆษณาในแบบปกติ [caption id="attachment_46659" align="aligncenter" width="1024"] งานนิทรรศการ E3 ที่คุ้นเคย ที่อาจจะต้องผ่านเลยไปสำหรับปี 2020 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การมีอยู่ของมันเมื่อ 25 ปีที่แล้ว[/caption] และแวดวงวิดีโอเกมก็ไม่ต่างกัน มันเป็นงานพาณิชย์ศิลป์ที่ต้องการ ‘ความสนใจ’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ไม่ว่าจะในรูปแบบของ Business to Business (B2B) หรือ Business to Customer (B2C) ก็ตาม นั่นทำให้งานนิทรรศการจัดแสดงเกมใหญ่ๆ อย่าง Tokyo Game Show, Game Developer Conference, EGX Rezzed, PAX East ไปจนถึงมหกรรม ‘ศักดิ์สิทธิ์’ ของนักเล่นเกมอย่าง Electronic Entertainment Expo หรือ E3 ยังคงดำเนินต่อไปมาจนถึงปัจจุบัน แต่มาในปีนี้ ดูเหมือนว่าบรรดางานนิทรรศการเกม กำลังเจอบททดสอบและมาถึงทางแยกที่สำคัญอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ ว่าวิกฤติการของ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ได้กระเทือนถึงการคงอยู่ของนิทรรศการวิดีโอเกมอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะด้วยการยกเลิก E3 2020, การเลื่อนกำหนดของ GDC 2020, การเลื่อนกำหนดของ EGX Rezzed 2020 และ Taipei Game Show 2020 และอีกหลายสิบงานที่ได้รับผลกระทบจากการมาถึงของเชื้อร้ายที่กำลังสร้างความตื่นตระหนกเสียขวัญให้กับผู้คนทั่วโลก และไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ ในเร็ววัน ลำพังแค่การยกเลิก E3 2020 ก็เรียกได้ว่าสะเทือนขวัญอย่างใหญ่หลวง เพราะนับตั้งแต่ปี 1995 นั้น ไม่เคยมีปีใดที่ Los Angeles Convention Center ในช่วงกลางปี จะขาดซึ่งสีสันของมหกรรมยักษ์ใหญ่ ที่เหล่าผู้รักในวิดีโอเกมและผู้เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม จะได้มารวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง แลกเปลี่ยน พูดคุย และได้เปิดตัวพร้อมทดสอบชิ้นงานวิดีโอเกมใหม่ ทั้งที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา และที่พร้อมจะมา Premiere เป็นครั้งแรกในงานนี้ แน่นอนว่าการยกเลิกและการเลื่อนกำหนดของบรรดานิทรรศการวิดีโอเกมเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ (ภายใต้สถานการณ์ที่สุดวิสัย…) แต่มันก็ก่อให้เกิดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของผู้เขียนขึ้นมาประการหนึ่ง นั่นคือ… มันยัง ‘จำเป็น’ อยู่หรือไม่ ที่แวดวงวิดีโอเกมจะต้องมี ‘นิทรรศการ’ ใหญ่ๆ เหล่านี้? ออกจะเป็นคำถามที่สับสนและขัดแย้งกับข้อกล่าวในช่วงข้างต้นของบทความ แต่เราอาจต้องยอมรับความจริงข้อหนึ่งที่ว่า เสน่ห์ของงานนิทรรศการนั้น แม้จะยังคงทรงพลัง และมีคุณค่าในสายตาของพวกเราผู้บริโภค แต่สำหรับค่ายเกมยักษ์ใหญ่นั้น มันคือเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องถูกใช้เพื่อจับจอง เตรียมความพร้อม เพื่อช่วงเวลาสามถึงสี่วัน ที่สูงถึงหลักร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการได้มีพื้นที่ในฮอลล์หลัก ไม่นับรวมบรรดาค่ายเล็กๆ และทีมสร้างเกมอินดี้ ที่ค่าใช้จ่ายสำหรับการออกบูธเล็กๆ นั้น แม้จะไม่สูงเท่ากับการออกบูธของค่ายใหญ่ แต่เมื่อถัวเฉลี่ยค่าตกแต่ง ค่าเช่าที่ ค่าบุคลากร ค่าอุปกรณ์ อาจจะหมายถึงเงินเก็บสะสมทั้งหมด ที่ต้องเอาออกมาใช้แทงจนหมดหน้าตัก และเฝ้าภาวนาว่าผลงานของพวกเขา/เธอ จะไปเข้าตากรรมการหรือผู้ประกอบการให้ทะยานติดปีก (ซึ่งอาจจะได้หรือไม่ได้ ก็ต้องไปวัดดวงกันหน้างาน) เหล่านี้ เมื่อบวกรวมกับวัฒนธรรมการ Streaming ถ่ายทอดสดผ่านแพลทฟอร์มอย่าง Youtube หรือ Twitch ที่ผู้ชมสามารถเลือกรับชมได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องไปถึงสถานที่จริง มันก็ยิ่งทำให้ความจำเป็นของการจัดนิทรรศการเกมนั้นถูกท้าทายอย่างมีนัยสำคัญ ว่าในปีนี้ ที่ทุกอย่างต้องยกเลิก เลื่อน หรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอ มันจะยังมีพลังและทำหน้าที่ที่งานนิทรรศการทั่วไปสามารถทำได้อยู่หรือไม่ อันที่จริง ค่ายเกมใหญ่ๆ ที่มีศักยภาพเองก็ส่งสัญญาณการ ‘ตีจาก’ ให้เห็นเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็น EA ที่แยกมาจัดงานเฉพาะของตัวเอง, Nintendo ที่ถ่ายทอดสดผ่านงาน Nintendo Direct หรือแม้แต่งานอย่าง GDC และ E3 เอง ก็มีการถ่ายทอดสดผ่านระบบ Streaming ที่มีจำนวนผู้ชมมากขึ้นๆ ในแต่ละปี กระนั้นแล้ว ในทัศนะของผู้เขียน แม้จะมีปัจจัยแวดล้อมที่จะหนุนส่งให้บรรดางานนิทรรศการต้องล้มหายตายจาก มันก็ยังมีอีกมุมหนึ่ง ที่เป็นหลักฐานว่างานนิทรรศการอาจจะ ‘ไม่ตาย’ ไปตามกระแส เพราะดังที่กล่าวไป เป้าประสงค์ของงานนิทรรศการก็คือการ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างกัน ไม่ว่าจะระหว่างบริษัทกับผู้บริโภค หรือบริษัทกับคู่ค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝั่งผู้บริโภค ที่เป็นปลายน้ำสุดท้ายที่ชิ้นงานเกมจะต้องเดินทางไปถึง และงานนิทรรศการ ก็คือตัวจักรสำคัญที่จะช่วยผลักการตัดสินใจของผู้บริโภคในขั้นสุดท้ายก่อนที่ชิ้นงานจะวางจำหน่ายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการมีอยู่ของนิทรรศการเกมนั้น ไม่ได้มีส่งผลต่อค่ายพัฒนาและผู้จัดจำหน่าย แต่หมายรวมถึงกิจการต่างๆ ของพื้นที่ในการจัดงานเหล่านั้น ไม่ว่าจะบริการด้านสถานที่พัก สถานประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร ตั้งแต่เล็กไปจนถึงใหญ่ ซึ่งมีส่วนช่วยในการหมุนเวียนของเม็ดเงินและเศรษฐกิจให้สะพัดมากยิ่งขึ้น การขาดไร้ซึ่งงานนิทรรศการ ย่อมส่งผลกระทบต่อการมีอยู่ของกิจการต่างๆ ที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนอาจจะไม่พร้อมเสี่ยงที่จะยกเลิกงานเหล่านี้ในเร็ววัน มาถึงวรรคนี้ ย้อนกลับไปที่คำถามเรื่องความจำเป็นของงานนิทรรศการแวดวงวิดีโอเกม มันอาจจเร็วเกินไปที่จะสรุป แต่สิ่งที่เคยเป็นเพียงแค่คำถาม ก็จะได้โอกาสที่จะทำการทดสอบอย่างจริงจัง เมื่อโลกแห่งแวดวงวิดีโอเกมจะไม่มีนิทรรศการ หรือมี แต่ถูกเลื่อนออกไปสู่ทางเลือกใหม่ มันจะได้ผลลัพธ์ออกมาเช่นใด [caption id="attachment_46674" align="alignnone" width="1000"] ก็ได้แต่หวังว่า Tokyo Game Show 2020 สถานการณ์วิกฤติ COVID-19 จะทุเลาเบาบางจนสามารถจัดงานได้ตามปกติ...[/caption] แต่ก็ดังที่กล่าวไปข้างต้น ผู้เขียนยังคงเชื่อในพลังของงานนิทรรศการ ตราบเท่าที่มันยังคงฟังก์ชันหลักของมัน มันก็ยากที่อุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้ จะร้างลาห่างหายไป เพราะ ‘ปฏิสัมพันธ์’ ระหว่างผู้คน และการลองดูกับมือเห็นกับตา โดยเฉพาะแวดวงวิดีโอเกม ก็ยังทรงคุณค่า และมีพลังมากกว่าเพียงแค่การถ่ายทอดสด อยู่หลายร้อยหลายพันเท่า
22 Mar 2020
E3 2020 อาจจะไม่ถูกจัด เพราะเมือง LA ประกาศสภาวะฉุกเฉิน!
การระบาดของโคโรน่าไวรัส ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ Hardware ที่ผลิตไม่ได้ เพราะโรงงานปิดจน ของขาดตลาดอยู่ในตอนนี้ หรือ งานคอนเฟอร์เรนซ์เกมต่าง ๆ ที่ประกาศเลื่อนวันจัดงานออกไป กระทั้ง ESA ที่เคยมีประกาศออกมาว่า "งาน E3 2020 จะไม่ยกเลิกแน่นอน" ตอนนี้ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้จัดแล้วเช่นกัน เพราะ LA ที่เป็นเมืองจัดงาน เพิ่งจะประกาศสภาวะฉุกเฉินไปครับ! จริง ๆ แล้วก็ยังอีกหลายเดือนกว่าที่งาน E3 จะถูกจัด แต่ด้วยการประกาศสภาวะฉุกเฉินในเมือง LA ตอนนี้ ถ้าหากว่าสภาวะดังกล่าวนั้นยาวไปจนถึงเดือน มิถุนายน แล้วละก็ มีโอกาสสูงมากที่งาน E3 2020 จะต้องถูกเลื่อนวันจัดงานออกไปเช่นกัน ซึ่งในช่วงเวลาอีก 3 เดือนต่อจากนี้ ตัววัคซีนเพื่อใช้ป้องกันโคโรน่าไวรัส น่าจะสามารถคิดค้นได้ และทำให้สถานการณ์ในครั้งนี้มันดีขึ้น แต่ก็ต้องรอดูต่อไปครับว่าจะเป็นยังไง E3 2020 จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 9 - 11 มิถุนายน 2020 นี้ครับ Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
05 Mar 2020
ESA เดินหน้าเต็มกำลัง ประกาศไม่เลื่อนวันจัดงาน E3 2020!
ถ้าพูดถึงงานคอนเฟอร์เรนซ์เกี่ยวกับเกมที่มีชื่อเสียงมาก E3 ถือเป็นหนึ่งในงานที่เหล่าเกมเมอร์ให้ความสนใจอย่างมากทุกปี เพราะในทุก ๆ ปีภายในงาน E3 จะมีการประกาศเปิดตัวเกมมากมาย แต่ก่อนหน้านี้หนึ่งในงานคอนเฟอร์เรนซ์เกี่ยวกับเกมชื่อดังอย่าง GDC ก็ต้องถูกเลื่อนออกไปเพื่อหนีการระบาดของเชื่อไวรัสโคโรน่า ส่งผลให้คนเริ่มคิดว่า "งาน E3 เองก็จะเลื่อนด้วยรึเปล่า?" แต่เหมือนว่าเราจะกลัวมากเกินไปกันเองครับ ESA ได้บอกกับทาง Vice Games ว่า "ตอนนี้ทุกคนกำลังเฝ้ามองสถานอย่างใกล้ชิดอยู่ แน่นอนว่าสุขภาพของพนักงานเรามาเป็นอันดับ 1 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังอีกนานกว่าจะถึงงาน E3 ดังนั้นตอนนี้เรายังไม่มีแผนที่จะเลื่อนวันจัดงานออกไป และกำลังเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อทำให้งาน E3 2020 ออกมาดีที่สุด" ยังไงก็ยังอีกหลายเดือนจริงกว่าจะถึงวันงาน E3 ต้องรอดูต่อไปว่าช่วงนั้นการระบาดของโคโรน่าจะเบาลงรึยังครับ E3 2020 จะจัดขึ้นในวันที่ 9 - 11 มิถุนายน 2020 ครับ ที่มา: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
03 Mar 2020
ยืนยัน !! Nintendo จะเข้าร่วมงาน E3 2020 แน่นอน
E3 คืองานโชว์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศอเมริกา ซึ่งมักจะมีค่ายเกมดังๆ เข้าร่วมอย่างมากมายซึ่งทางองค์กร Entertainment Software Association ได้เปิดเผยอัปเดตเกี่ยวกับการลงทะเบียนสำหรับการแสดงในปี 2020 นี้ โดยมี Xbox, Capcom, Square Enix, Take-Two Interactive Software, BANDAI NAMCO เป็นต้น และรายชื่อล่าสุดที่ประกาศออกมาแน่นอนว่าทาง Nintendo เองก็จะเข้าร่วมงานนี้เช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ค่ายนี้ไม่ได้มีรายชื่อในการมีส่วนร่วมเลย ซึ่งภายในงาน E3 ปีนี้ทาง Sony เองก็ยืนยันแล้วว่าพวกเขานั้นจะไม่เข้าร่วมงานนี้เป็นปีที่สองติดต่อกัน พร้อมทั้ง Geoff Keighley พิธีกรงานเกมชื่อดังเองก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมเช่นกัน โดยส่วนตัวคาดว่างาน E3 ปีนี้เราจะน่าจะได้เห็นเกมใหม่ๆ ที่จะลงให้กับเครื่อง PS5 มากมายเป็นแน่ และอาจจะมีการเปิดตัวของเกม Grand Thef Auto VI ก็เป็นได้ Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
14 Feb 2020